Movie Review THE LIGHTHOUSE (2019) The Lighthouse and the Sailor's Curse
Movie Review THE LIGHTHOUSE (2019) The Lighthouse and the Sailor's Curse
Blog Article
รีวิวหนัง THE LIGHTHOUSE (2019) เดอะ ไลท์เฮาส์ ประภาคารและคำสาปกะลาสี
ประเภทของภาพยนตร์: สยองขวัญ/ตลก/จิตวิทยา
วันที่เข้าฉาย: 18 ตุลาคม 2562
ผู้กำกับ: Robert Eggers
นักแสดงนำ: Willem Dafoe,Robert Pattinson
ความยาว : 109 นาที
เรื่องย่อ:
ดูหนังออนไลน์ 4k เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1890 เอฟราอิม วินสโลว์เริ่มทำงานเป็น "คนดูแลประภาคาร " เป็นเวลาสี่สัปดาห์ บนเกาะที่ห่างไกลจากชายฝั่งนิวอิงแลนด์ภายใต้การดูแลของโทมัส เวค อดีตกะลาสีเรือ ในห้องพักของเขา วินสโลว์พบนางเงือกตัวเล็ก ๆ ในห้อง และเก็บมันไว้ในเสื้อแจ็คเก็ต เวคพิสูจน์ให้เห็นในทันทีว่าเขาเป็นคนเรียกร้องมาก โดยทำให้วินสโลว์ต้องทำงานหนัก เช่น ล้างกระโถนบำรุงรักษาเครื่องจักร ขน ถัง น้ำมันก๊าด หนัก ขึ้นบันได และทาสีประภาคาร ในขณะที่ห้ามวินสโลว์เข้าห้องโคมไฟ
วินสโลว์สังเกตว่าทุกคืนหลังจากขึ้นไปบนประภาคาร เวคจะถอดเสื้อผ้าต่อหน้าประภาคาร ระหว่างที่อยู่ที่เกาะ วินสโลว์เริ่มเห็นภาพหลอนของสัตว์ประหลาดในทะเลและท่อนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเล และสำเร็จความใคร่กับนางเงือกบนแผ่นหิน วินสโลว์รู้สึกไม่สบายใจกับ นกนางนวลตาเดียวแต่เวคเตือนวินสโลว์ว่าไม่ควรฆ่านกนางนวลตาเดียวเพราะเชื่อ
ในความ เชื่อโชคลาง ว่านกนางนวลเป็นกะลาสีที่กลับชาติมาเกิดใหม่ เย็นวันหนึ่งขณะรับประทานอาหาร เวคเปิดเผยกับวินสโลว์ว่านกนางนวลตาเดียวตัวก่อนของเขาเสียชีวิตหลังจากที่สูญเสียสติสัมปชัญญะไป ขณะที่วินสโลว์เปิดเผยว่าเขาเคยเป็น คนงานตัดไม้จากรัฐเมนที่ประจำการอยู่ในแคนาดาและกำลังมองหางานใหม่
วันก่อนออกเดินทางตามกำหนดการ วินสโลว์พบนกนางนวลตายอยู่ในถังเก็บน้ำทำให้น้ำดื่มมีเลือดไหล เขาถูกนกนางนวลตาเดียวโจมตีและทุบตีจนตายอย่างโหดร้าย ลมเปลี่ยนทิศทางอย่างรุนแรงและพายุรุนแรงพัดถล่มเกาะ วินสโลว์และเวคใช้เวลาทั้งคืนเมามาย และพายุทำให้ผู้ดูแลประภาคาร ไม่สามารถ มารับพวกเขาได้ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่วินสโลว์กำลังเทกระโถนในโถส้วม เขาก็พบร่างนางเงือกที่เกยตื้น
ซึ่งตื่นขึ้นมาและหอนใส่เขา เขาจึงรีบวิ่งกลับไปที่กระท่อม ซึ่งเวคบอกเขาว่าพายุทำให้เสบียงของพวกเขาหมดไป วินสโลว์ไม่กังวลเพราะเขาคิดว่าผู้ดูแลประภาคารมาช้าไปเพียงหนึ่งวัน แต่เวคบอกว่าพวกเขาติดอยู่ที่นั่นมาหลายสัปดาห์แล้ว ทั้งคู่ขุดลังไม้ที่ฐานของประภาคาร ซึ่งวินสโลว์สันนิษฐานว่ามีเสบียงสำรองอยู่ แต่กลับเต็มไปด้วยขวดแอลกอฮอล์
ขณะที่พายุยังคงโหมกระหน่ำ วินสโลว์และเวคเมาทุกคืนและสลับกันแสดงความรู้สึกใกล้ชิดและแสดงความเป็นศัตรูกัน คืนหนึ่ง วินสโลว์พยายามขโมยกุญแจห้องโคมไฟจากเวคแต่ไม่สำเร็จ และคิดจะฆ่าเขา ต่อมา วินสโลว์เห็นหัวตาเดียวของวิกกี้คนก่อนของเวคอยู่ในกับดักล็อบสเตอร์ขณะเมา วินสโลว์สารภาพกับเวคว่าชื่อจริงของเขาคือโทมัส โฮเวิร์ด และเขาใช้ตัวตนเป็นเอฟราอิม
วินสโลว์ หัวหน้าคนงานที่โหดร้ายของเขาในแคนาดาซึ่งเขาจงใจปล่อยให้จมน้ำตาย โฮเวิร์ดเห็นภาพนิมิตที่น่ากลัวของเวคกล่าวหาว่าโฮเวิร์ด "เผยความลับ" และวิ่งไปที่เรือดอรี่เพื่อพยายามออกจากเกาะ แต่เวคปรากฏตัวและทำลายเรือด้วยขวาน หลังจากไล่ตามโฮเวิร์ดกลับไปที่ที่พัก เวคอ้างว่าเป็นโฮเวิร์ดที่ไล่ตามเขาและสับเรือดอรี่ เพราะโฮเวิร์ดคลั่งเพราะคำสารภาพของเขา
เมื่อไม่มีแอลกอฮอล์เหลืออยู่ ฮาวเวิร์ดและเวคก็เริ่มดื่มเหล้าผสมน้ำมันสนกับน้ำผึ้ง และคืนนั้น คลื่นยักษ์ก็ซัดเข้ามาที่ผนังกระท่อมของพวกเขา ในตอนเช้า ฮาวเวิร์ดพบสมุดบันทึกของเวค ซึ่งเวควิจารณ์เขาว่าเป็นพนักงานที่เมาและไม่มีความสามารถ และแนะนำให้ไล่เขาออกโดยไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ทั้งสองคนทะเลาะกัน และฮาวเวิร์ดโจมตีเวคโดยทำให้เห็นภาพหลอนของนางเงือก
วินสโลว์ตัวจริง และเวคเป็น ร่างคล้าย โพรทีอุสฮาวเวิร์ดทุบตีเวคจนยอมจำนนและพาเขาไปที่รูที่ฐานของประภาคารเพื่อฝังเขาให้ตายทั้งเป็นก่อนที่จะหมดสติ เวคบรรยายถึงการลงโทษแบบ " โพรมีธีอัน " ที่รอผู้ที่มองเข้าไปในโคมไฟอยู่ และฮาวเวิร์ดก็นำกุญแจห้องโคมไฟไป
ฮาวเวิร์ดไปหยิบบุหรี่ และเวคกลับมาและฟันเขาด้วยขวาน ฮาวเวิร์ดปลดอาวุธเวคและฆ่าเขา ก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนประภาคาร ในห้องโคมไฟเลนส์เฟรสเนลเปิดออกสู่ฮาวเวิร์ด ซึ่งเอื้อมมือเข้าไปและกรีดร้องอย่างรุนแรงด้วยความบิดเบี้ยว ก่อนจะตกลงบันไดประภาคาร ไม่นานหลังจากนั้น ฮาวเวิร์ดซึ่งแทบไม่มีชีวิตก็นอนเปลือยกายอยู่บนโขดหิน โดยมีตาที่เสียหาย ขณะที่ฝูงนกนางนวลจิกอวัยวะของเขาที่โผล่ออกมา
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
ไม่น่าเชื่อว่าหนังเรื่อง The Lighthouse จะเป็นเพียงผลงานหนังยาวเรื่องที่ 2 ของผู้กำกับ โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ ผู้กำกับที่โด่งดังจากหนังเรื่องแรกในแนวเขย่าขวัญยุคใหม่อย่าง The VVitch: A New-England Folktale ซึ่งก็ทำให้เห็น ความมีของ ในตัวเอ็กเกอร์มาอย่างดี และในหนังเรื่องที่ 2 ของเขานี้มันก้ยังคงโดดเด่นจากสิ่งที่เขาเคยทำไว้ ทั้งโปรดักชันดีไซน์ที่เคร่งขรึมย้อนยุคแต่สวยงามมีความขลัง และปริศนาดำมืดที่น่าหวาดผวาสั่นประสาทตัวละครและผู้ชม 22-hd.com
โดยในครั้งนี้เขานำเรื่องเล่าคลาสสิกของเหตุการณ์จริงในปี 1801 ที่ชื่อ โศกนาฏกรรมประภาคารหลังเล็ก เกี่ยวกับคนเฝ้าประภาคารชาวเวลส์ 2 คนที่ชื่อโธมัสเหมือนกันต้องติดอยู่ในประภาคารระหว่างพายุใหญ่โหมกระหน่ำยาวนาน และเมื่อชายคนหนึ่งเกิดตายอย่างสยดสยอง ชายอีกคนกลัวถูกกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรถ้าเอาศพโยนทะเล
จึงจำใจต้องทนอยู่ทำงานโดยมีศพเพื่อนร่วมงานที่กำลังเน่าเปื่อยอยู่ไม่ไกล สภาวะกดดันและความอ้างว้างทำให้เขาแทบเป็นบ้า เหตุการณ์นี้ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านสื่อหลายครั้งที่ใกล้หน่อยก็มีละครวิทยุของช่อง BBC ในปี 2011 ฉบับหนังอังกฤษในปี 2016 ของ คริส โครว์ และผ่านวิสัยทัศน์ใหม่ในหนังฉบับนี้ของเอ็กเกอร์นี่เอง
ทั้งนี้ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดและเป็นความโดดเด่นในฉบับเอ็กเกอร์ คือการผสมผสานเรื่องราวดราม่าคลาสสิกทางทะเลจากนวนิยายอมตะของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เจ้าของผลงาน Moby-Dick กับโรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน เจ้าของผลงาน Treasure Island โดยมีเอกลักษณ์ของนิยายสยองขวัญเหนือธรรมชาติของ เอช. พี. เลิฟคราฟท์ และนิยายผีของ อัลเจอร์นอน แบล็กวูด เป็นส่วนผสมในฝั่งของจิตวิปลาสด้วย เมื่อบวกด้วยฝีมือการกำกับและประสบการณ์ในการทำโปรดักชันดีไซน์ของเอ็กเกอร์ก็ทำให้ตัวหนังมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ผู้ชมสัมผัสได้ตั้งแต่แว่บแรก
อีกส่วนที่โดดเด่นแบบรู้สึกมาก ๆ คือการแสดงแบบทุ่มสุดตัว ลึกสุดใจของ 2 นักแสดงนำอย่าง โรเบิร์ต แพตทินสัน และ วิลเลม เดโฟ ที่ฝั่งหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มหน้าใหม่ที่มาทำงานครั้งแรก เป็นตัวแทนสายตาฝั่งผู้ชมที่เข้าไปสัมผัสประภาคารกลางทะเลห่างไกลผู้คน พร้อมบรรยากาศและเรื่องเล่าที่น่าหวาดระแวงและประสงค์ร้ายต่อสภาวะจิตใจ
ทั้งการตายของคนดูแลคนก่อนหน้าที่เขามาทำงานแทน หุ่นแกะสลักตำนานนางเงือกที่มาเชื้อเชิญชายหนุ่มให้จมน้ำตาย คำสาปของนกทะเลที่บินวนเวียนอยู่รอบประภาคาร และพฤติกรรมประหลาดของรุ่นพี่ที่หลงใหลแสงประภาคารจนน่าสงสัย อีกฝั่งคือรุ่นพี่สุดเก๋าที่ชอบจ้ำจี้ มีความเห็นในทุกเรื่อง เจ้าอารมณ์ ขี้โกหกคำพูดกลับกลอกไปมา จนความจริงคลุมเครือชวนสับสน ปั่นหัวทั้งตัวละครหนุ่ม ทั้งตัวเอง และผู้ชม
ถ้าไปดูรายละเอียดเบื้องหลังการแสดงของทั้งคู่เราจะยิ่งทึ่งกับภาพที่ปรากฏบนจอเข้าไปอีก แต่ก็เป็นเรื่องควรรู้ก่อนไปรับชม เช่น ผู้กำกับเอ็กเกอร์เข้มงวดกับการพูดของตัวละครถึงขนาดสั่งเดโฟให้แสดงโดยพูดความเร็วเท่าไหร่ ในบทบรรทัดที่เท่าไหร่เลยทีเดียว ด้านเดโฟเองก็ไม่ยิ่งหย่อนเขาเลือกนอนในบ้านของชาวประมงใกล้กับสถานที่ถ่ายทำเพื่อซึมซับบรรยากาศของตัวละคร
ส่วนแพตทินสันก็เลือกจะไม่พูดคุยกับใครระหว่างการถ่ายทำ กับเดโฟเองคนทั้งคู่ไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัวเลยนับตั้งแต่ถ่ายทำจนหลังจากนั้นไปหลายเดือนทีเดียวเพื่อเก็บความเหินห่างของตัวละครไว้ตามบท และส่วนที่น่าทึ่งมาก ๆ
คือการสะกดจิตตัวเองของทั้งคู่อย่างแพตทินสันเขาเลือกจะทานหยดน้ำฝนที่ร่วงผ่านหลังคาลงมาระหว่างคัตเพื่ออินกับบท และเดโฟก็ร่ายบทใส่อารมณ์กว่า 2 นาทีโดยที่ไม่กะพริบตาสักครั้งเดียว นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเข้มข้นที่นักแสดงทั้งสองคนต่างอัดใส่กันราวกับฆ่ากันได้ทีเดียว นั่นทำให้ภาพในหนังทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก
สรุป นี่เป็นหนังที่โพรดักชันน่าทึ่ง การแสดงน่าศึกษา เนื้อหามีความเข้มข้นเหนือจริงชวนสับสน และถ้ามองให้ลึกหนังก็มีการสะท้อนประเด็นที่ซ่อนไว้ให้คนค้นหาความหมาย ทั้งการแย่งชิงแสง ความหมายของความลุ่มหลงในนางเงือก ความผิดบาปและการลงโทษ ตลอดจนตัวตนและวัยที่ขัดแย้งกัน ประภาคารอาจเป็นสิ่งที่มากกว่าอาคารตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนด้วยนั่นเอง
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #THELIGHTHOUSE #เดอะ ไลท์เฮาส์
กลับด้านบน Report this page